เหตุด่วนเหตุร้ายแจ้ง 191
โรงพักบ้านโฮ่ง
053-591492
อุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินแจ้ง
1669
โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง
053-591505
053-550444
กู้ชีพกู้ภัย อบต.ป่าพลู
แจ้งเหตุไฟไหม้
053-096062
ถ้ำหลวงผาเวียง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
ถ้ำหลวงผาเวียง เป็นถ้ำที่มีโพรงคูหาขนาดใหญ่ และลึกเข้าไปในภูเขาเป็นระยะทางที่ยาวตามแนวภูเขาภายในถ้ำมีช่องชั้นคูหามากมาย มีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติ งอกย้อยลงมาเป็นรูปต่างๆ ตามธรรมชาติ ที่วิจิตรงดงามตระการตาสุดที่จะพรรณนาได้ ยามสะท้อนแสงไฟหินย้อยดังกล่าวจะให้แสงวาววับระยับประดุจดังมณี อันล้ำค่า ถ้ำหลวงแห่งนี้อยู่ที่ว่าภูเขาด้านใต้ของอำเภอบ้านโฮ่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลป่าพลู อยู่ห่างจากที่ว่าอำเภอบ้านโฮ่ง ไปตามถนนสายบ้านโฮ่ง –ลี้ ( ถนนหมายเลข 106 ช่วงบ้านโฮ่ง –ลี้ ) ไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร อยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 101-102 แล้วจะมีทางเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 2.8 กิโลเมตร ถ้ำหลวงแห่งนี้มีทั้งหมด 9 ห้องด้วยกันดังนี้
ห้องที่ 1. ลานรมณีย์ เป็นห้องกว้างมีแสงสว่างจากปากถ้ำส่องถึงมีมุมสำหรับพักผ่อนอิริยาบถ บริเวณลานนี้ประกอบด้วย หินงอกหินย้อยตามมุมต่างๆ เป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม ถึง 6 แห่ง ได้แก่
1.1 โคมเพชรระย้า เป็นหินงอกจากผนังถ้ำคล้ายรูปโคมไฟห้อยย้อยลงมาราวระย้าเพชร
1.2 พฤษาจำหลัก เป็นเสาหินเชื่อมระหว่างพื้นถ้ำกับปากถ้ำ เป็นรูปต้นไม้และภูเขาที่สลับซับซ้อนราวกับประติมากรรมแกะสลัก
1.3 ปักษีไอยรา เป็นหินย้อยจากเพดานถ้ำถึงพื้นถ้ำโดดเด่นอยู่กลางห้อง มองเห็นเป็นรูปตามจิตนาการ ด้านหน้ามองคล้ายรูป นกอินทรีย์กางปีก ส่วนด้านข้างเป็นรูปช้าง
1.4 พุทธาสถาน ตรงลานติดผนังถ้ำด้านหนึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนแท่นหิน สำหรับนักท่องเที่ยวได้สักการบูชา
1.5 ปราการผาเวียง ผนังถ้ำด้านตรงข้ามพระพุทธรูปจะเป็นแผ่นหินงอกหินย้อยสลับซับซ้อนมองดูราวกำแพงเมืองที่รายล้อมปราสาทราชวังไว้ สวยงามมาก
1.6 เสลี่ยงปทุมา เป็นแห่งสุดท้ายของห้องที่ 1 มีหินงอกขนาดมหึมา รูปดอกไม้ตั้งอยู่บนแท่นหินสี่เหลี่ยม ดูพิสดารยิ่งนัก
ห้องที่ 2. อัคนีโขดเขิน ห้องนี้เป็นบริเวณหุบเหว ที่มีร่องรอยการพังทลายของหินงอกหินย้อย มีมุมที่สวยงาม อยู่ 3 แห่ง ได้แก่
2.1 เชิงผาหิมพานต์ อยู่บริเวณผนังถ้ำระดับเหนือศีรษะมีหินย้อยเป็นรูปหน้าผาและป่าไม้ที่สลับซับซ้อนราวกับเทพนิยาย
2.2 ลำธารเกล็ดแก้ว ตรงผนังถ้ำที่ติดกันเป็นรูปธารน้ำตก ซึ่งมีหินกากเพชรไหลเป็นทางระยิบระยับราวกับเกล็ดแก้ว
2.3 แวววาวรัตนา เป็นจุดสุดท้ายของห้องที่ 2 มองดูเป็นภูเขาเล็กๆ ที่ขาวโพรนไปด้วยกากเพชรยามถูกไฟกระทบ จะส่องประกายแวววาว
ห้องที่ 3. เนินไศลงามตา ห้องนี้เป็นเนินดินสลับกับก้อนหินตั้งตระหง่านกลางถ้ำมีมุมสวยงาม 1 แห่ง คือ มยุราภิรมย์ เป็นรูปนกอยู่บนชะง่อนผา
ห้องที่ 4. คูหาวิสูตร เป็นห้องใต้ดินกว้าง เพดานต่ำมีความสวยงามตรงเพดานถ้ำที่เป็นชั้นๆลดหลั่นคล้ายผ้าม่าน ด้านในสุดของห้องเป็นแท่นหินในมุมสงบ เล่ากันว่าเป็นที่บำเพ็ญพรตของฤาษี จึงมีชื่อว่า “อาศรมฤาษี”
ห้องที่ 5. อุทยานหินวิไล ห้องนี้เป็นเนินหินที่มีหยดน้ำจากเพดานถ้ำค่อนข้างต่ำซึ่งหยดอยู่ตลอดเวลาจนพื้นถ้ำที่น้ำหยดนั้นเป็นหินงอกตะปุมตะป่ำเต็มไปหมด ดูคล้ายดอกเห็ดหรือดอกไม้สวยงามมาก ห้องนี้มีมุมสวยงามอยู่สามแห่ง ซ่อนอยู่ในหลืบผนังถ้ำ ได้แก่
5.1 เทวีวิมาน ตรงผนังถ้ำสูงขึ้นไปเหนือศีรษะมีเชิงผายื่นออกมาคล้ายวิมานสวรรค์
5.2 ม่านภูผา บริเวณถัดมาเป็นผนังถ้ำที่โปร่งคล้ายลายฉลุ เป็นรูปผ้าม่านงดงามมาก
5.3 ธาราหยาดเพชร ด้านหลังผ้าม่านเป็นโขดหินขาวสะอาดไหลเป็นลำธารกากเพชร สวยระยิบระยับจับตา
ห้องที่ 6. อุ่นไอทิพย์ธาณี ห้องนี้เป็นห้องโถงกว้างใหญ่และโล่งที่สุดมีความแปลกและมหัศจรรย์ยิ่งนัก คือจะมีไอหมอกบางๆ ลอยอยู่เต็มห้องขณะเดินเข้าไปจะรู้สึกคล้ายถูกอบด้วยไอน้ำ มีมุมที่น่าสนใจคือ จะเห็นการเกิดของหินงอกหินย้อยอย่างชัดเจนที่หินปูนหยดจากเพดานข้างบนลงมาด้านล่างก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ตลอดเวลานับศตวรรษสมกับที่ชื่อก้องเก็จกาลเวลา
ห้องที่ 7. ชลธีเจิดจรัส ห้องนี้เป็นห้องโถงที่มีทางเดินรอบๆห้องตรงกลางห้องจะมีหินสวยงามเป็นรูปต่างๆ อยู่หลายมุมได้แก่ หินรูปเต่า รูปหอย ฯลฯ ( ห้องนี้ยังไม่ได้เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ )
ห้องที่ 8. สมบัติอัมรินทร์ เป็นห้องตามตำนานเล่าขานของถ้ำผาเวียงว่าเดิมใช้เก็บสมบัติ ถ้วย โถ ชาม ที่ให้ชาวบ้านยืมไปใช้ในงานบุญแต่ชาวบ้านไม่มีความซื่อสัตย์ ห้องนี้จึงถูกปิดด้วยดินและก้อนหิน ด้านสุดของผนังห้องมีร่องรอยคล้ายถูกดินทับมีทางแคบๆ หายลึกเข้าไป ( ห้องนี้ยังไม่ได้เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ )
ห้องที่ 9. ดอยดินแดนสวรรค์ ห้องนี้เป็นห้องที่แปลกอีกห้องหนึ่ง คือ พื้นถ้ำนั้นค่อนข้างขึ้นสูงชันขึ้นคล้ายเป็นภูเขา แต่เป็นภูเขาดิน ที่มีดินพังลงมาจากเพดานถ้ำ ในส่วนที่สูงสุดและมีรายชะของน้ำไหลเป็นทาง ( ห้องนี้ยังไม่ได้เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ )